ครีมทาหน้าจำเป็นต้องทามั้ย ?

ครีมทาหน้า

            หลายคนคงเคยตั้งคำถาม ว่าเราจำเป็นต้องใช้ครีมทาหน้ามั้ย? เพราะบางคนใช้สารพัดครีมทาหน้ากลับมีผิวพรรณที่ดูสวยงามสุขภาพดีน้อยกว่า บางคนที่แทบไม่เคยใช้ครีมทาหน้าเลย 

            หากเป็นสมัยก่อนคงบอกว่าไม่จำเป็น แต่ในยุคปัจจุบันคงต้องบอกว่า ครีมทาหน้าคือสิ่งจำเป็น เพราะโลกของเราเต็มไปด้วยมลภาวะซึ่งคอยทำร้ายผิวของเราอยู่ตลอดเวลา การล้างหน้าให้สะอาดและใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหรือครีมทาหน้าที่เหมาะสมกับสภาพผิว คือสิ่งจำเป็นที่ทุกคนควรทำ แม้ว่าคุณจะเป็นคนที่มีพื้นฐานสุขภาพผิวที่ดี แต่หากปล่อยปละละเลยไม่ดูแล ผิวสวยๆ ของคุณจะสะสมปัญหาต่างๆ เอาไว้รอวันที่จะปะทุเกิดเป็นสิว ริ้วรอย หรือจุดด่างดำ

            ด้วยเทคโนโลยีทางเวชสำอางในปัจจุบันที่เจริญก้าวหน้า ทำให้ครีมทาหน้ามีวิวัฒนาการแตกแขนงออกเป็น 6 ประเภท ดังนี้

1. ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวแบบครีม(Cream)

            ครีม คือผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่เราพบได้ง่ายที่สุด โดยมักมาลักษณะเป็นเนื้อข้น หนืด คล้ายครีมนม เนื่องจากเป็นการนำน้ำมันมาผสมเข้ากันกับน้ำ โดยมีอัตราส่วนน้ำมันที่มากกว่าน้ำ ทำให้ครีมเป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีให้ความรู้สึกหนักเวลาที่ทาลงบนผิว และยังซึมลงใต้ผิวได้ช้าที่สุด ผลิตภัณฑ์แบบครีมจึงเหมาะกับผู้ที่มีผิวแห้ง เพราะเนื้อสัมผัสที่หนักและซึมลงผิวช้า จะหลงเหลือความมันเคลือบผิวชั้นบน ช่วยรักษาความชุ่มชื้นของผิว ทำให้ผิวไม่แห้งแตก หรือลอกเป็นขุย แต่ไม่เหมาะกับผู้ที่มีผิวมันหรือ ผิวผสม เพราะเนื้อสัมผัสที่หนาและหนักจะไปอุดตันรูขุมขนที่ผลิตน้ำมันทำให้เกิดปัญหาสิวได้

            และยังมีผลิตภัณฑ์อีกตัวที่มีคุณสมบัติคล้ายคลึงกันแต่ให้สัมผัสที่หนักกว่า คือ บัตเตอร์ (Butter) ที่เนื้อสัมผัสข้นจนคล้ายเนย ซึ่งมักไม่ค่อยนิยมใช้กับผิวหน้า แต่นิยมใช้กับผิวกายมากกว่า

2. ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวแบบโลชั่น (Lotion)

            ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวแบบโลชั่นจะมีส่วนผสมของน้ำและน้ำมันคล้ายแบบครีม แต่โลชั่นจะมีปริมาณน้ำมากว่าน้ำมัน (Water base) จึงให้สัมผัสที่เหลวกว่า ซึมลงผิวได้รวดเร็ว จึงให้ความรู้สึกสบายไม่หนักผิวและไม่ทิ้งความมันไว้มากเท่ากับแบบครีม ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวแบบโลชั่นจึงเหมาะกับผู้ที่มีผิวผสม หรือค่อนข้างมันบางจุด เพราะผิวบางส่วนยังมีความแห้งที่ต้องการการบำรุงอย่างล้ำลึก แต่ทิ้งความมันไว้น้อย

            อย่างไรก็ตามผลิตภัณฑ์บำรุงผิวแบบโลชั่นก็ยังไม่เหมาะกับผู้ที่มีผิวมัน เพราะส่วนประกอบที่เป็นน้ำมัน มีโอกาสอุดตันรูขุมขนและก่อให้เกิดสิวได้อยู่ดี

3. ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวแบบเจล (Gel)

            ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวแบบเจล เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมที่เป็นน้ำมันค่อนข้างน้อยหรือไม่มีเลย  เพราะมีสารประกอบประเภท Polymer ที่มีคุณสมบัติในการกักเก็บน้ำได้มาก จึงให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวได้สูง ซึมลงผิวได้ไว แต่ไม่สามารถทิ้งความมันหรือความชุ่มชื้นไว้เคลือบผิวได้ ทำให้ไม่เหมาะกับผู้ที่มีผิวแห้ง แต่กลับเหมาะกับผู้ที่มีผิวมันหรือผู้ที่มีปัญหาสิว ซึ่งเรามักจะพบผลิตภัณฑ์บำรุงผิวแบบเจลในผลิตภัณฑ์ทารักษาสิว, Eye Gel และผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าสำหรับกลางคืน เพราะสามารถซึมลงผิวได้ค่อนข้างดี ทำให้ผิวอิ่มน้ำ ดูชุ่มชื่น

4. ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวแบบซีรั่ม (Serum)

            ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวแบบซีรั่ม หรือที่เราเรียกติดปากว่า เซรั่ม เป็นผลิตภัณฑ์ที่วิวัฒนาการมาจากการนำเอาคุณสมบัติเด่นของครีมและโลชั่นมารวมกัน โดยเนื้อของซีรั่มจะมีลักษณะใสคล้ายน้ำแต่มีความเหนียวอยู่ แต่ไม่เหนียวเท่าโลชั่น แม้ซีรั่มส่วนใหญ่จะใช้ขั้นตอนการผลิตคล้ายกับครีมและโลชั่น แต่ซีรั่มจะโดดเด่นตรงที่จะกลั่นหรือใส่เอาสารบำรุงเข้าไปมากกว่าแบบครีมและโลชั่น เน้นไปที่การบำรุงผิว ปกป้องผิว และซ่อมแซมผิว ด้วยความเข้มข้นนี้ ทำให้ซีรั่มมีราคาแพงกว่าแบบครีมและโลชั่น แต่ใช้ในปริมาณที่น้อยกว่า 

5. ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวแบบเอสเซนส์ (Essence)

            ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวแบบ เอสเซนส์ เป็นผลิตภัณฑ์บำรุผิวที่ใช้กระบวนการทำให้โมเลกุลของครีมทาหน้ามีขนาดเล็กลง บางผลิตภัณฑ์ก็ทำให้เล็กลงถึงระดับนาโน ทำให้เอสเซนส์สามารถเข้าไปบำรุงผิวได้ล้ำลึกถึงภายใน ช่วยฟื้นฟูผิวให้แข็งแรง ส่วนผสมหลักของเอสเซนส์คือน้ำ (Water Base) แต่มีปริมาณสารบำรุงที่เข้มข้น เหมาะกับผู้ที่ไม่นิยมผลิตภัณฑ์บำรุงผิวแบบครีมหรือโลชั่น ทั้งยังให้ความชุ่มชื้นค่อนข้างน้อย จึงสามารถใช้ได้ทั้งเช้าและเย็น โดยนิยมใช้เอสเซนส์ที่ซึมไว้ที่สุดก่อน แล้วค่อยทางผลิตภันฑ์บำรุงผิวอื่นๆ ตามที่หลัง

6. ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวแบบอีมัลชั่น (Emulsion)

            สุท้ายเป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวแบบใหม่ที่เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้น โดยอีมัลชั่นจะมีลักษณะคล้ายโลชั่นผสมเจล มีความเข้มข้นไม่มากไม่น้อยจนเกินไป แต่ให้สัมผัสบางเบา(แต่ยังหนักกว่าซีรั่ม) ซึมลงสู่ผิวได้ง่าย และไม่ทำให้ผิวแห้ง ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวแบบอีมัลชั่น จึงเป็นผลิตภันที่เหมาะกับผู้ที่มีผิวผสม และผิวค่อนข้างมันในบางจุด เพราะสามารถบำรุงและรักษาความชุ่นชื้นโดยไม่ทิ้งความมันไว้มากจนเกินไป

            การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ให้เหมาะสมกับสภาพผิว เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยให้ผิวของเราได้รับการบำรุงฟื้นฟูและซ่อมแซมได้อย่างตรงจุด และลดปัญหาผิวพรรณ ให้ผิวสวยๆ อยู่เป็นเกราะป้องกันมลภาวะให้เราไปนานๆ

Tagged ,